ประโยชน์หลากหลายของกาวสังเคราะห์
กาว หมายถึงวัสดุสำหรับการยึดติดของสองสิ่งเข้าด้วยกัน โดยกาวนั้นเป็นอุปกรณ์มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานต่าง ๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่การปฏิบัติงานผ่านสื่อการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษา ยาวมาจนถึงระดับมัธยมและระดับมหาลัย รองรับในการทำโครงงานหรืองานฝีมือต่างๆ ที่อาจารย์ประจำวิชามอบหมายมาให้ ซึ่งนอกจากการใช้เพื่อประกอบการเรียนหรือการสอนแล้ว กาว ยังถูกนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ ทั้งงานช่าง หรืองานฝีมือต่าง ๆ อาทิเช่น งานซ่อมแซมวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในงานซ่อมรองเท้า, ซ่อมของเล่น, เฟอร์นิเจอร์ หรือข้าวของเครื่องใช้
และยังมีการนำไปใช้ในงานด้านการประกอบหรือติดวัสดุ อาทิเช่นการ ประกอบเฟอร์นิเจอร์, ประกอบของเล่น, หรือสร้างของใช้ต่าง ๆ และนอกจากนี้ยังมีการนำกาวไปใช้ใน งานด้านศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นการทำโมเดลบ้านตัวอย่าง หรือใช้ในงานเฉพาะตัวอย่างเช่น การสร้างผลงานศิลปะแบบลอยตัวเหล่านี้เป็นต้น
ซึ่งนอกเหนือจากการใช้ในวัตถุประสงค์ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว กาวยังได้ถูกนำไปใช้ในด้านอื่น ๆ อีกมากมายจนกาวได้กลายเป็นวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นบ้าน สำนักงาน โรงเรียน โรงงาน หรือสถานที่ใดก็ตาม ต่างล้วนต้องมีติดไว้เพื่อรองรับการปฏิบัติงานในรูปแบบต่าง ๆ
กาว เป็นวัสดุประสานที่มีส่วนผสมจากของเหลวหรือกึ่งของเหลว เพื่อให้สามารถเชื่อมประสานวัสดุระหว่างสองอย่างให้ติดเข้าด้วยกันได้ โดยกาวนั้นแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ กาวธรรมชาติ และกาวสังเคราะห์ โดยกาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือกาวสังเคราะห์ เนื่องจากกาวธรรมชาตินั้นใช้ต้นทุนที่สูงกว่า เนื่องจากใช้วัสดุที่ต้องเสาะหาตามธรรมชาติ เช่น ยางไม้ แต่ในขณะที่ กาวแบบสังเคราะห์นั้นจะใช้วัตถุดิบจากสารเคมีสังเคราะห์ ที่มีต้นทุนถูกกว่าและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้มากกว่า เราจึงเห็นกาวสังเคราะห์วางจำหน่ายมากกว่ากาวแบบธรรมชาตินั่นเอง
ทั้งนี้กาวสังเคราะห์สามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลัก ๆ คือ กาวเซลลูโลส (cellulose glue) และ กาวพลาสติก (plastic glue) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีส่วนประกอบและรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันออกไป
กาวเซลลูโลส (cellulose glue)
เป็นกาวที่ทำจากไนโตรเซลลูโลส และสารละลายเคมีอื่น ๆ เช่น แอลกอฮอล์ หรือ อีเธอร์ โดยกาวจะมีลักษณะเป็นวุ้นสามารถเพิ่มคุณสมบัติความยืดหยุ่น และเหนียวแน่นได้เมื่อนำไปผสมกับยางสนหรือยางเหนียว ทำให้รองรับการประสานได้ทุกสภาพพื้นผิว แต่จุดด้อยของกาวชนิดนี้คือมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่ต่ำ หากโดนลม แสงแดด และความชื้นมาก ๆ เข้า กาวจะเริ่มเสื่อมสภาพ จึงไม่เหมาะสำหรับที่จะนำมาใช้กับสิ่งของที่ต้องเผชิญกับมลภาวะสูง หรือต้องตากอากาศนอกบ้านตลอดเวลา เจอแดดเจอฝน โดยส่วนใหญ่กาวเซลลูโลสจะถูกนิยมนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมรองเท้ามากกว่า
กาวพลาสติก (plastic glue)
กาวพลาสติกถือเป็นกาวที่มีส่วนประกอบการผลิตมาจากพลาสติก โดยจะใช้พลาสติกในประเภทเทอร์โมพลาสติก และเทอร์โมเซตติง โดยหากต้องการใช้งานจะต้องใช้สารละลายหรือความร้อนเท่านั้นเพื่อปรับเปลี่ยนรูปของกาวที่มีลักษณะจับตัวแข็ง ให้เนื้อกาวอ่อนกลายเป็นของเหลว โดยกาวชนิดนี้เหมาะสำหรับสายงานซ่อมแซม หรือประดิษฐ์สิ่งของที่มีขนาดใหญ่ทั้งยังมีความทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว