จักรยานไฟฟ้า กระแสนิยมแห่งโลกยุคใหม่

จักรยานไฟฟ้า ยานพาหนะเพื่อการเดินทางระยะใกล้ ที่มอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ที่ต้องการเดินทางในระยะสั้น และไม่สะดวกที่จะเดิน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีแรงในการเดินอีกทั้งยังข้อเข่าไม่ดีซึ่งหากเดินหรือปั่นจักรยานมาก ๆ ข้อเข่าก็อาจจะมีปัญหาได้ ดังนั้น จักรยานไฟฟ้า จึงเป็นยานพาหนะที่จะมาแก้ไขในจุดนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุที่ต้องการออกนอกบ้านไปในที่ต้องการพบปะผู้คนในชุมชน หรือใช้เพื่อเดินทางไปจับจ่ายซื้อของในตลาดใกล้บ้านด้วยตนเอง โดยหากให้เทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีวางจำหน่ายกันในปัจจุบัน จักรยานไฟฟ้า มีข้อดีตรงราคาที่ถูกกว่ามาก ไม่ใช้น้ำมันทำให้ไม่สิ้นเปลือง อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบากว่าอีกด้วย โดยสินค้าจำพวกจักรยานไฟฟ้านี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในประเทศ จีน ที่มีคนนิยมใช้กันแพร่หลายตั้งแต่วัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ ส่วนทางบ้านเราเองก็พึ่งจะได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ E-Bike หรือจักรยานไฟฟ้า เป็นจักรยานที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยมีการออกแบบมาให้สามารถช่วยขับเคลื่อนจักรยานไปข้างหน้าได้ โดยใช้ความเร็วที่ไม่สูงมากเท่ารถจักรยานยนต์ เนื่องจากทำมาเพื่ออำนวยความสะดวก สำหรับใช้งานในพื้นที่ชุมชน อีกทั้งการผลิตยังต้องอยู่ภายใต้ตามที่กฎหมายแต่ละประเทศกำหนดเอาไว้ เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัยของผู้ขับขี่โดยความเร็วของจักรยานไฟฟ้าที่วางจำหน่ายทั่วไปในปัจจุบันจะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 24 TO 42 กม/ชม  ซึ่งเป็นอัตราที่เหมาะสมให้ทั้งความคล่องตัวและให้ทั้งความปลอดภัยในกรอบที่สมดุลย์มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าหากพิจารณาในส่วนของโครงสร้างความเป็นจักรยานแล้ว ย่อมที่ไม่ควรจะใช้ความเร็วมากกว่านี้ เพราะด้วยโครงสร้างที่บอบบางซึ่งอาจต้องรับกับแรงสะบัดหรือแรงกระแทก ซึ่งโครงสร้างไม่อาจรับได้หรืออาจเกิดความสูญเสียการทรงตัว ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่จะต้องมีการจำกัดระดับของความเร็ว

จักรยานไฟฟ้าได้ถูกคิดค้นและเริ่มเข้าจดสิทธิบัตร U.S Patent 552,271 ในประเทศอเมริกาครั้งแรกในปี 1895 โดย Ogden Bolton Jr ในการเป็นเจ้าของจักรยานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วย “ฮับมอเตอร์ไฟฟ้าดีซี แบบแปรงถ่านหกโพล และ คอมมิวเตเตอร์ยึดที่ล้อหลัง” แต่เพียงผู้เดียว

โดยจักรยานคันดังกล่าวเป็นจักรยานที่ไม่มีระบบเกียร์และกินพลังงานไฟฟ้า 100 แอมแปร์แรงดันไฟฟ้า เพียงแค่ 10 โวลท์ เท่านั้น จากนั้นก็ได้มีการพัฒนาต่อ ๆ กันเรื่อยมาจากบริษัทผู้ผลิตต่าง ๆ เช่นในปี 1990 ได้มีการพัฒนาตัวเซนเซอร์ตรวจจับแรงบิดเพื่อควบคุมกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ทำงานได้สอดคล้อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือในปี 2001 ที่ได้มีการติดตั้งชุดถีบไฟฟ้า (pedelec) นำมาติดตั้งลงในจักรยานเพิ่มเพื่อช่วยส่งกำลังในการเคลื่อนที่ให้ดียิ่งขึ้น

โดยในปัจจุบันความนิยมในจักรยานไฟฟ้า เริ่มมีมากขึ้นโดยเฉพาะในแถบเอเชีย อย่างเช่นประเทศ ญี่ปุ่น และ จีน เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้มีความจำเป็นและเหมาะสมกับการใช้งานจักรยานไฟฟ้ามาก หรืออย่างประเทศ ญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศที่มีภาษีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้จักรยานไฟฟ้าเป็นยานพาหนะทางเลือกที่ดีสำหรับชาวญี่ปุ่น รวมถึงประเทศ จีน ที่มีประชากรหนาแน่น และการจราจรก็ค่อนข้างติดขัดมาก คนส่วนใหญ่จึงหันมาใช้ จักรยานไฟฟ้า แทนกันอย่างมากมาย

ทำไมเราซื้อจักรยานไฟฟ้าจากอินเตอร์เน็ตเอามาประกอบเองไม่แข็งแรงเหมือนที่เราดูที่จำหน่ายที่แผนกกีฬาในห้างสรรพสินค้า

ในบรรดาหมวดหมู่ของเครื่องออกกำลังกายที่ใช้ไฟฟ้านั้นเราสนใจอยู่หลายหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าหรือจักรยานไฟฟ้าคิดว่าน่าจะนำมาใช้เป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายที่บ้านได้เป็นอย่างดี เพราะเราไม่มีเวลาในการออกกำลังกายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือว่าแอโรปิกหรือว่าการไปฟิตเนสข้างนอก อีกกว่าจะกลับมาจากการทำงานก็ดึกแล้วปกติที่ทำงานแล้วเลิก 5 โมงก็จริงแต่กว่าที่จะฝ่ารถติดมาถึงบ้านทำให้ไม่มีเวลาที่จะไปออกกำลังกายข้างนอกได้ ทำให้ความตั้งใจในการที่จะออกไปวิ่งยังสวนสาธารณะหรือสนามบริเวณโรงเรียนต่างๆนั้นไม่สามารถทำได้ดังนั้นการมองหาตัวช่วยดีดีอย่างพวก จักรยานไฟฟ้าหรือ ลู่วิ่งไฟฟ้าก็ได้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและน่าสนใจอีกทั้งเราเคยทดลองใช้มาก่อนพบว่ามีประสิทธิภาพดีเราคงจะซื้อมาใช้แล้วใช้งานทำให้สุขภาพเราดีขึ้นจริงๆ

เคยทดลองปั่นจักรยานไฟฟ้าในฟิตเนสดูน่าสนใจเหมือนกัน

ตอนแรกสนใจในการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ามากกว่าซื้อจักรยานไฟฟ้าเพราะเราคิดว่าน่าจะช่วยออกกำลังกายได้ทุกส่วน แต่เมื่อดูราคาเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วพบว่าราคาของลู่วิ่งไฟฟ้ามันแพงกว่ามากจักรยานไฟฟ้า ตอนนี้ค่าใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆของเรามันสำคัญกว่าการซื้อเครื่องออกกำลังกาย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องลดสเปคจากการซื้อของที่แพงมาลองซื้อ จักรยานไฟฟ้าดูคิดว่าน่าจะใช้งานได้ดีเหมือนเหมือนกันแต่ราคามันถูกกว่า อีกทั้งเราเคยลองใช้งานที่ฟิตเนสที่เราเคยใช้บริการ 2 – 3 ครั้งก็ปรากฏว่ามันใช้ดีคิดว่าจะลองซื้อรุ่นที่มี option เหมือนที่เราเคยใช้งานที่ฟิตเนสน่าจะช่วยให้เราออกกำลังกายได้ดีเช่นเดียวกันราคาที่เราไปดูมาก็ไม่ได้แพงมากจนเกินที่จะเอื้อมถึงก็เลยคิดว่าจะลองซื้อจักรยานไฟฟ้ามาใช้ปั่นในบ้านเพื่อออกกำลังกายดูอีกครั้ง ที่สำคัญที่สุดจักรยานไฟฟ้าไม่ได้มีขนาดใหญ่โตไม่ได้กินพื้นที่มาก หากเราใช้งานก็ยังสามารถพับเก็บได้อีกด้วยเหมาะสำหรับบ้านหลังเล็กๆหรือว่าในคนโดของใครหลายหลายคนที่กำลังมองหาเครื่องออกกำลังกายนั่นเอง

คนที่สนใจในการออกกำลังกายคิดว่าน่าจะชอบจักรยานไฟฟ้า

ที่เราสนใจเรื่องของจักรยานไฟฟ้าเพราะเพื่อนเราเข้าศึกษาในเรื่องนี้เค้าบอกว่าจักรยานไฟฟ้านั้นผ่านการทดสอบทางเวชศาสตร์การกีฬา พบว่าเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจดีเหมือนกัน ในการออกกำลังกายซึ่งปกติหากจะซื้อเครื่องออกกำลังกายไม่ว่าประเภทใดก็ตามนั้นสิ่งที่น่าจะพิจารณาเป็นลำดับต้นๆเลย ในการเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าคือท่าทางการนั่ง การปั่น สบายไหม ปรับท่านั่งในการขี่ได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องของฟังก์ชันต่างๆ ในการใช้งานก็สำคัญเช่น ความฝืด การแสดงผล ระยะทาง อัตราการเต้นของหัวใจ การเผาผลาญ ส่วนเรื่องสำคัญสำคัญสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือเรื่องราคาไม่แน่ใจเหมือนกันว่า มันควรอยู่ขนาดไหนแต่พื้นฐานให้สมเหตุสมผลกับคุณภาพเท่านี้ก็ตัดสินใจ