สวิตช์ไฟแบบต่าง ๆ

สวิตช์ไฟถือเป็นส่วนประกอบที่อยู่ควบคู่กับระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นช่วงต่อมาหลังจากการเกิดขึ้นของหลอดไฟ ที่ค้นคว้าสร้างขึ้นให้มนุษย์ได้มีใช้งาน หน้าที่ของสวิตช์ไฟนั้นหลัก ๆ ก็คือ ไว้อำนวยความสะดวกแก่การ เปิดและปิด หลอดไฟได้อย่างสะดวกขึ้น โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปเปิดปิดสวิตช์ที่ตำแหน่งบนตัวหลอดไฟเหมือนยุคอดีต

ทั้งนี้ ประเภทของสวิตช์นั้นมีอยู่หลากหลายประเภท สามารถเลือกได้ตามใจชอบหรือตาม Design ที่เข้ากับบ้านของตน หรือบางกรณีก็จำเป็นจะต้องเลือกตามความเหมาะสมของการนำไปใช้งาน

สวิตซ์ไฟฟ้าแบบทางเดียวจะเป็นสวิตช์ ในลักษณะที่ใช้การโยกปิดเปิด  ซึ่งจะมีการเดินวงจรไฟฟ้าเพียงทางเดียวเท่านั้นในการเชื่อมต่อกับวงจรไฟฟ้า โดยมีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่การใช้สวิตช์ 1 อันต่อ 1 หลอดไฟและต่อเข้ากัน  และเลือกตำแหน่งติดตั้งของสวิตช์ได้เพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีความต้องการที่จะต่อให้เข้ากันกับการใช้งานหลายหลอดไฟ  ในกรณีนี้ก็สามารถกระทำได้เช่นกัน โดยอาศัยหลักการต่อไฟแบบขนาน จากนั้นจึงใช้การต่อแบบอนุกรม โดยการต่อแบบหลอดไฟหลายดวงนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมสำหรับนำไปใช้กับ อาคารที่มีการใช้งานแบบส่วนรวม อย่างเช่น คอนโดหอพักหรือสถานที่หน่วยงานองค์กร ในบริเวณกว้าง หรือในช่วงระยะทางเดิน ของบริเวณพื้นที่ รวมไปถึงห้องประชุมขนาดใหญ่  และนิยมใช้กันในโรงงานและห้องเรียนและอื่น ๆ

ซึ่งการต่อในลักษณะนี้จะไม่นิยมใช้กันในบ้านพักอาศัย เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองการใช้งานไฟฟ้าเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของบ้าน  อีกทั้งยังไม่สามารถที่จะเลือกได้ว่าจะเปิดดวงไฟเฉพาะที่จุดใด เนื่องจากการเปิดครั้งเดียว ไฟทุกดวงที่มีการต่อเชื่อมโยงเอาไว้ก็ทำงานพร้อม ๆ กันหลายดวงนำมาซึ่งค่าไฟบานปลายและไม่คุ้มค่าจากไฟดวงอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย

แบบต่อมานั่นก็คือสวิตช์แบบสองทาง  ซึ่งจะมีข้อแตกต่างอยู่ตรงที่ใช้การติดตั้งสวิตช์ 2 อันต่อหลอดไฟ 1 ดวงได้  อรรถประโยชน์ของสวิตช์ชนิดนี้นั้น จะรองรับความสะดวกสบายในการเปิดปิดอีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอีกด้วย จากสาเหตุของการเข้าถึงตำแหน่งของสวิตช์ได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องเดินย้อนไปที่ตำแหน่งเดิม  ซึ่งมีการติดตั้งอย่างแพร่หลายนิยมติดไว้ตรงจุดของทางขึ้นและลงบันได หรือนำไปติดไว้ยังทางเข้าออกประตู และด้วยความง่ายของการเปิดปิดก็จะทำให้ผู้ใช้งานมีการเปิดปิดไฟตามการใช้งานจริงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ประเภทของสวิตช์ยังมีอีกแบบเรียกว่า สวิตช์แบบอัตโนมัติ อันมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องพึ่งพาการใช้ระบบฟิวส์ โดยสวิตช์แบบเดิม ๆ ที่มีการใช้ฟิวส์ เมื่อเกิดการขาดก็จะต้องมีภาระยุ่งยากในการนำมาเปลี่ยน ส่งผลต่อความไม่สะดวกของผู้ใช้งาน และสวิตช์แบบนี้นับเป็นมาตรฐานในยุคสมัยใหม่ที่ส่งเสริมให้นิยมใช้กัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มีกระแสไฟฟ้าลัดวงจร สวิตช์แบบอัตโนมัติจะทำการตัดวงจรทันที ในรูปแบบที่ไม่มีการถูกหลอมละลายจากกระแสไฟฟ้า ช่วยอำนวยความต่อเนื่องเมื่อทำการซ่อมแซมกระแสไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถใช้งานสวิตช์ได้ต่อทันที โดยสวิตช์อัตโนมัติ จะแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบให้เลือก มีทั้งแบบความร้อนและแบบแม่เหล็ก และแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้การจะเลือกใช้สวิตช์แบบอัตโนมัติก็จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน