นานาสาระน่ารู้ สัญญาณไฟเตือนจราจร
จะเป็นอย่างไรหากโลกนี้ไม่มีสัญญาณไฟเตือนจราจร สัญญาณไฟเตือนจราจรนอกจากจะช่วยความเป็นระเบียบของการใช้รถบนท้องถนน ช่วยลดปัญหาความวุ่นวายเบียดเสียดแย่งชิงและยังช่วยลดปัญหาอุบัติเหตุได้อีกด้วย แม้ว่าโลกของเราในทุกประเทศจำเป็นที่จะต้องมีสัญญาณไฟจราจรอยู่บนท้องถนน แต่จะดีแค่ไหนหากสัญญาณไฟจราจรนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเที่ยงตรงและชัดเจน รวมถึงคงทนไม่พังง่ายระบบไม่รวนง่าย และสาเหตุนี้เองคุณภาพของสัญญาณไฟเตือนจราจรคือสิ่งที่แตกต่างในแต่ละประเทศ
จนอาจจะกล่าวได้ว่าการเลือกใช้สัญญาณไฟจราจรที่มีคุณภาพคือสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ประเภทพกพาใช้ฉุกเฉินเพื่อการเตือนจราจร หรืออุปกรณ์สัญญาณไฟหลักเมื่อใช้ในพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานหรือองค์กรนั้นผิดชอบหน้าที่ดูแลอยู่ ถือเป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของสัญญาณไฟจราจร ที่จะเอานำมาใช้ซึ่งจะมีผลต่อเสียงชื่นชมเสียงก่นด่าได้ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบนท้องถนนจะมีสัญญาณไฟจราจรคอยช่วยเป็นเครื่องมือกำกับดูแลอยู่ แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุดยังจะต้องขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจ และความมีระเบียบวินัยเคารพกฎของผู้ใช้รถบนท้องถนนด้วย โดยในส่วนของความรู้ความเข้าใจนั้นเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ขับขี่รถบนท้องถนนจะต้องเรียนรู้หรือผ่านการอบรมการเข้าใจสัญญาณไฟจราจร แต่แม้ว่าจะมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม บางกรณีก็ยังเกิดปัญหาได้อันเนื่องมาจากความด้อยคุณภาพ ของสัญญาณไฟจราจรที่นำเอามาใช้ หรือสัญญาณเตือนไฟจราจรในรูปแบบใด ๆ ก็ตาม
สัญญาณไฟจราจรที่ด้อยคุณภาพนั้น มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานติดขัดหรือติด ๆ ดับ ๆ มีการแสดงสัญญาณแสงสีที่สังเกตยาก มีสีที่เพี้ยน มีสีที่แยกออกจากกันได้ไม่ชัดเจนหรือมีสีที่มองเห็นจากที่ไกล ๆ ได้ไม่ชัด หรือมีความคงทนต่ำพังอยู่บ่อยครั้งต้องคอยซ่อมอยู่บ่อยครั้ง
โดยต้นกำเนิดของสัญญาณไฟจราจรนั้นกำเนิดครั้งแรกของโลก ในประเทศ อังกฤษ ในปี 1868 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์จะมีรถยนต์ประเภทที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน เกิดขึ้นเสียอีก บ่งชี้ได้ว่าความหนาแน่นของประชากร แม้จะใช้รถจักรยาน หรือแม้แต่ใช้ล้อเกวียน ก็ยังจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระบบการจราจรอย่างมีรูปแบบอยู่เสมอ
อุปกรณ์เตือนการจราจรที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลกนั้น เกิดขึ้นโดยวิศวกรชาวอังกฤษชื่อว่า เจ พี ไนต์ ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อควบคุมการสัญจรของรถม้า และผู้คนเดินเท้าในบริเวณสี่แยก โดยสถานที่ตั้งสัญญาณไฟจราจรเป็นแห่งแรกของโลกนั้นได้ตั้งแห่งแรกที่สี่แยกใจกลางมหานคร ลอนดอน โดยพื้นที่อยู่ใกล้กับบริเวณหน้ารัฐสภา อังกฤษ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นสัญญาณจราจรแบบต้นกำเนิดจะใช้รูปแบบของกลไกแขน 2 ข้างที่ขยับกลไกได้ ส่งสัญญาณให้ผู้คนได้รับรู้ว่าสัญญาณแบบใดหมายถึงอะไร จนกระทั่งวิวัฒนาการได้พัฒนามาเรื่อย ๆ กลายเป็นสัญญาณไฟ ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ในเมือง ซอลต์เลกซิตี้ รัฐยูทาห์ เริ่มใช้ตั้งแต่ปี คศ 1912 โดยนาย เลสเตอร์ ไวร์ ซึ่งเป็นตำรวจเป็นผู้พัฒนาขึ้นก่อนที่จะมีการต่อยอดให้สัญญาณไฟจราจรสามารถทำงานได้โดยระบบอัตโนมัติ ซึ่งพัฒนาขึ้นอีกขั้นจาก การ์แรตต์ มอร์แกน และใช้เป็นครั้งแรกในเมือง เคลฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ซึ่งกลายเป็นรูปแบบของสัญญาณไฟจราจรที่มีใช้กันมาตราบจนถึงปัจจุบัน