ประโยชน์ในการใช้งานของ เรซิ่นสังเคราะห์

นวัตกรรมการผลิต เรซิ่นสังเคราะห์ นับเป็นการเข้ามาปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมและข้าวของเครื่องใช้ ที่สามารถช่วยให้กระบวนการสร้างสรรค์รูปทรง สามารถดำเนินงานได้อย่างง่ายขึ้น สะดวกรวดเร็วขึ้น รวมทั้งยังให้ความประหยัดขึ้นในกระบวนการผลิตอีกด้วย เรซิ่นสังเคราะห์ มีการนำไปใช้ผลิตได้อีกทั้ง เครื่องประดับ รวมไปถึงของสะสมต่าง ๆ หรือเป็นโครงสร้างส่วนประกอบของวัสดุยานยนต์ หรืออุตสาหกรรมการผลิตในประเภทอื่น ๆ

โดยเรซิ่นสังเคราะห์ มีลักษณะกระบวนการผลิตที่มาจากการตั้งต้นเป็นของเหลว อันมีความข้นหนืด และสามารถทำให้แข็งขึ้น หรือกลายเป็นรูปแบบของวัสดุที่มีความนิ่มหรือนุ่มได้ เมื่อเผชิญกับความอุ่น ซึ่ง เรซิ่นสังเคราะห์ นั้นจะมีคุณสมบัติบางอย่างที่คล้ายคลึงกันกับเรซิ่นแบบธรรมชาติ

แม้ว่าจะมีข้อแตกต่างอยู่ตรงที่ สำหรับเรซิ่นธรรมชาตินั้นจะได้มาจากยางไม้ มาเข้ากระบวนการแปรรูป แต่สำหรับเรซินสังเคราะห์นั้น จะมีส่วนผสมของพลาสติก รวมถึงการเพิ่มสารเติมแต่งบางชนิดลงไปตามคุณสมบัติที่ต้องการของผู้ผลิต

ทั้งนี้เรซิ่นสังเคราะห์จะประกอบไปด้วยสารอินทรีย์ อันเรียบง่ายมากกว่า  และถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการใช้ผลิตพลาสติก และง่ายแก่การปรับปรุงค้นคว้าเพื่อหาประสิทธิภาพที่เหมาะสม  โดยจะแบ่งออกเป็น เรซินเทอร์โมพลาสติก และ เรซินแบบเทอร์โมเซตติง

อย่างไรก็ตามประโยชน์ของเรซิน มีการนำมาใช้ตั้งแต่อดีตนานมาแล้วนับแต่สมัยโบราณ อาทิเช่นการนำมาใช้ทำน้ำมันหอมระเหย การผลิตสารเคลือบผิวชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงการนำไปใช้เพื่อผลิตกาว ทว่าอุปสรรคของการใช้เรซิ่นธรรมชาติจะมีข้อจำกัด หากมีการใช้ในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือต้องผลิตออกมาในปริมาณมาก ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ  ดังนั้นในภายหลังจึงได้มีการออกกฎหมายควบคุมในลักษณะต่าง ๆ ก่อเกิดให้มีการใช้เรซิ่นประเภทนี้น้อยลง

ซึ่งเรซินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาจากพลาสติกหรือ โพลีเอสเตอร์ จะให้ความสะดวกทดแทนได้สะดวกคล่องตัวกว่า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตที่มีเรื่องของขั้นตอนการหล่อ หรือการนำไปใช้ในกลุ่มงานเคลือบ อาทิเช่น การเคลือบกรอบรูปวิทยาศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในกลุ่มงานขึ้นรูปอีกด้วย เช่นการนำไปใช้ผลิต ไฟเบอร์กลาส การนำไปใช้ผลิตพลาสติกเสริมใยแก้ว ซึ่งแน่นอนว่าเรซินสังเคราะห์นั้น  คนทั่วไปก็สามารถพบเห็นได้ง่ายแม้แต่ของรอบตัวภายในบ้านทั่ว ๆไป มันจึงจัดเป็นวัสดุยุคใหม่ที่อยู่รอบตัวของเราทุกคน

นอกจากวัสดุประเภทเรซิ่นจะเป็นวัสดุชนิดที่ให้ความอเนกประสงค์  หลากหลายทั้งในแง่ของความยืดหยุ่นและเป็นได้ทั้งของเหลว รวมไปถึงเป็นได้ทั้งของแข็งแล้ว ยังมีลักษณะพิเศษอีกประการนั่นก็คือความสามารถในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้อีกด้วย และที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือความทนทานต่อมลภาวะ  ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี  รวมไปถึงการนำมาใช้ทดแทนส่วนประกอบของโลหะสำหรับงานบางชนิด  ที่สามารถนำเรซิ่นมาใช้ทดแทนได้เพื่อลดข้อกังวลของการเกิดสนิม

ดังนี้แล้ววัสดุประเภทเรซิ่นจึงยังถือว่ามีไอเดียอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับการนำไปปรับใช้ ไม่ใช่เป็นเพียงวัสดุที่รองรับแต่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่แต่เพียงเท่านั้น การใช้งานเรซิ่นยังมีอยู่ในวงกว้าง โดยเฉพาะการนำไปขึ้นรูปแบบจำลองต่าง ๆ เพื่อนำเสนอผลงาน หรือการนำไปใช้ในการประกอบการขนาดเล็ก โดยเฉพาะงานประดิษฐ์ งานศิลป และงานผลิตโมเดล เป็นต้น