แว่นตา 3 มิติ
เมื่อเราไปดูหนังเราจะรู้จักกับคำว่า 3 มิติโดยคำๆ นี้ก็หมายถึงการดูภาพที่เป็น 3 มิติคือกว้าง*ยาว*สูง หมายความว่าเป็นภาพยนตร์ที่แสดงรูปทรงของนักแสดงหรือตัวแสดงได้เป็นอย่างดี ซึ่งบางครั้งการทำภาพ 3 มิติออกมาอาจจะใช้ต้นทุนที่สูงมากกว่าจึงมีการสร้างแว่นตาในลักษณะที่เป็นแว่นตา 3 มิติขึ้นมา
แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าในการดูหนัง 3 มิติในโรงภาพยนตร์ IMAX มันทำงานอย่างไร
ยุคแรกของเทคโนโลยี 3 มิติ คือเริ่มตั้งแต่เมื่อทศวรรษที่ 19 ชาร์ลส์ วีทสโตนค้นพบว่าเขาต้องการที่จะดูภาพยนตร์เสมือนจริงที่ให้ความประทับใจ เพราะว่าจะเห็นตัวละครในรูปแบบกว้าง-ยาว-สูง เขาจึงมีการคิดค้นการนำกล้องออกมาเป็นสองกล้อง โดยภาพที่ออกมาจะกระจายเข้าสู่ดวงตาทั้งสองข้างของเรา
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 19 ถึงต้นทศวรรษที่ 20 อุปกรณ์ที่เรียกว่าสเตอริโอสโคปก็เกิดขึ้นมา อุปกรณ์ชิ้นนี้สามารรวมกันระหว่างภาพสองภาพที่ซ้อนเหมือนกันให้รวมมาเป็นหนึ่งเดียวได้ ทำให้เกิดภาพที่เป็นสามมิติ
ซึ่งสเตอริโอสโคปนี้มีมาช่วงยุคปี 1930 แต่ว่าแผ่นฟิล์มโดยทั่วไปก็ยังไม่รองรับกับอุปกรณ์แบบนี้ และทำให้ต่อมาแทนที่เราจะไปลงทุนกับการสร้างหนังสามมิติ สู้เราผลิตแว่นตา 3 มิติมาเพื่อให้ผู้เข้าชมภาพยนตร์ได้ดูกันดีกว่าไหม จึงมีการคิดค้นแว่นตา 3 มิติขึ้นมา
ลักษณะของมันคือเกิดการกระจายรวมแสงสีแดงและสีน้ำเงินที่กระจัดกระจายอยู่ตามแผ่นฟิล์มมารวมไว้ในเลนส์เดียวกัน เช่นเลนส์แว่นตาด้านซ้ายรับแสงสีแดง เลนส์แว่นตาด้านขวารับแสงสีน้ำเงิน เป็นต้น เขาเรียกว่าเกิดการโพลาไรซ์ของแสง (รวมแสง) ที่มีคลื่นความถี่เดียวกันรวมมาไว้ที่เลนส์เดียวกัน ทำให้เราสามารถดูภาพที่เป็นภาพ 3 มิติได้จากแผ่นฟิล์ม (โรงภาพยนตร์)
ซึ่งเทคโนโลยีนี้สร้างขึ้นครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ Disneyworld และโรงภาพยนตร์ที่เป็น IMAX3D และเปิดฉายภายในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ซึ่งภาพของมันก็จะเป็นภาพ 3 มิติเสมือนจริงด้วย ซึ่งการดูภาพยนตร์จากแว่นตา 3 มิติทำให้เกิดความสนุกสานเพลิดเพลิน และทำให้เกิดความสมจริงทำให้ดูแล้วมีความน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
แต่ว่าโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้ดูหนัง ก็ต้องสวมแว่นตา 3 มิติเพื่อดูมันด้วย หมายความว่าแว่นตาประเภทนี้ใช้งานที่ดูเพื่อความบันเทิงเท่านั้น และหมายความว่าภาพยนตร์ก็ยังฉายด้วยเทคโนโลยีที่เหมือนเดิม แต่ว่าวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปคือการพัฒนาแว่นตา ออกมาเป็นแว่นตา 3 มิติมากกว่า
สำหรับคนที่อยู่ในบ้านหากว่าจะดูหนัง 3 มิติก็ต้องมีซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ดูหนัง 3 มิติได้ เช่นโปรแกรม KM player และควรจะสวมใส่แว่นตา 3 มิติด้วย ส่วนเรื่องของเสียงก็ต้องเปิดผ่านลำโพง
ซึ่งแค่นี้ท่านก็จะได้รับอรรถรสในการรับชมมากมาย ต้องขอบคุณบุคลากรของ Disneyworld ที่พยายามจะสร้างแว่นตา 3 มิติขึ้นมาเพื่อเป็นนวัตกรรมที่น่าติดตาม และทำให้การดูหนังดูภาพยนตร์มีความสนุกสนานมากขึ้น
ส่วนของประเภทหนังยังมีทั้งการ์ตูน,ละคร, หนัง action และสุดท้ายหนังโป๊ 3 มิติเขาก็มีการสร้างขึ้นมาด้วย นับว่าเป็นอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมของมนุษย์โลกโดยแท้