หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อบริษัท E- commerce ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนอย่าง Alibaba โดย Alibaba นั้นก่อตั้งขึ้นโดยชาวจีนที่มีชื่อว่า Jack Ma เขาทำการก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำตลาดออนไลน์สำหรับการส่งออกสินค้าจากจีน จนโด่งดังไปทั่วประเทศ โดย Alibaba นั้น แบ่งเครือข่ายการดำเนินงานออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน โดยส่วนของ Alibaba นั้น จะเป็นการส่งออกสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้ผลิตโดยตรง หรือพูดง่าย ๆ คือเป็นธุรกิจค้าส่งที่มียอดขายสูงอย่างมากต่อปี และได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก ส่วนต่อมาคือส่วนของ Tmall เป็นการรวบรวมสินค้าที่เป็นแบรนด์ชั้นนำจากหลายประเทศทั่วโลกที่ไม่ใช่เพียงแค่สินค้าจากจีนเท่านั้น ส่วนสุดท้ายคือ Taobao โดย Taobao นั้น เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากคนทุกกลุ่ม เพราะ Taobao นั้นเป็นเว็บไซต์สำหรับการสั่งซื้อสินค้า จากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค และ จากผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค กล่าวง่าย ๆ คือ เป็นตลาดค้าปลีกที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมาก ทั้งฝ่ายผู้ซื้อและฝ่ายผู้ขาย
สินค้าที่อยู่ในเว็บ Taobao นั้น เป็นสินค้าจากจีนที่ขายโดยผู้ผลิตจีนและกลุ่มพ่อค้า – แม่ค้าของจีน แต่ตัวเว็บTaobao นั้น โด่งดังอย่างมากจนได้รับความนิยมในการใช้งานจากหลายประเทศ ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ Taobao จะยังคงเปิดให้บริการเฉพาะภาษาจีนก็ตาม แต่ประเทศไทยนั้นก็มีโอกาสที่จะได้ฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมานั้น Taobao Global ได้มีเป้าหมายในการร่วมลงทุนกับธุรกิจการค้าในไทย โดยการร่วมธุรกิจกันในครั้งนี้ เป็นการจับมือกันระหว่าง Taobao Global และกรมพัฒนาธุรกิจในไทย โดยก่อตัวขึ้นภายใต้โครงการที่ชื่อว่า “Magellan”
ชื่อของโครงการนี้นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนักสำรวจชาวโปรตุเกสที่สำรวจพื้นที่รอบโลกสำเร็จเป็นคนแรก อย่าง “Ferdinand Magellan” ซึ่งนั่นเองทำให้ Taobao ได้รับแรงบันดาลใจและต้องการนำเอาสินค้าที่ขึ้นชื่อของแต่ละประเทศรวบรวมกันและวางขายในเว็บ Taobao เพื่อเปิดโลกธุรกิจออนไลน์ในคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น
โดยการก่อตั้งโครงการนี้นั้น Taobao เริ่มที่จะทำการสร้างสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทยเป็นประเทศแรก และมีการวางแผนว่าจะนำสินค้าของไทยไปวางขายในเว็บ Taobao ถึง 25% ซึ่งปกติสินค้าที่มียอดขายสูงสุดของเว็บ Taobao จะเป็นกลุ่ม เสื้อผ้า เช่น กระโปรง เสื้อยืด หรือ ชุดสำหรับออกงานต่าง ๆ แต่สินค้าที่ทาง Taobao มีความต้องการให้ประเทศไทยนำไปวางขายนั้นได้แก่ ผลไม้อบแห้ง หมอนยางพารา เครื่องแกงต่าง ๆ เป็นต้น เพราะทาง Taobao มองว่าสินค้าต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากการส่งออกของไทย
หลาย ๆ คนอาจจะยังสงสัยว่า แค่การได้นำสินค้าไปวางขายบนเว็บ Taobao นั้นมันน่าตื่นเต้นตรงไหน ก็คงเหมือนกับการขายสินค้าบนเว็บไซต์ออนไลน์ทั่วไปในไทยที่ก็ได้รับความิยมอย่างมากอยู่แล้ว อธิบายง่าย ๆ ให้เข้าใจอย่างนี้นะคะ ประเทศจีนนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่โดนจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่างมากก็ตาม ทั้งการเข้าถึง Facebook หรือรายการทีวี แต่ต้องบอกก่อนว่า เรื่องของการชอปปิ้งนั้น ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่ทำรายได้จากการส่งออกหรือการค้าออนไลน์สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการคำนวณจาก World retail congress หรือ สภาการค้าปลีกโลก แต่หากพิจารณาตัวชี้วัดด้านปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยอดซื้อต่อบิล การซื้อขายข้ามประเทศ หรือโลจิสติกส์ แล้วนั้น ประเทศจีนก็ยังถือว่าเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกาอยู่ดี ซึ่งในอนาคตหากการวางแผนทางการค้าออนไลน์ของจีนประสบผลสำเร็จนั้น จีนอาจจะเป็นผู้ที่มีรายได้จากการค้าออนไลน์อันดับ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการก็ได้ ดังนั้น หากสินค้าไทยได้รับการวางจำหน่ายอยู่ในเว็บ Taobao ของจีนก็หมายความว่า เศรษฐกิจด้านการส่งออกสินค้าของไทยก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน