สารพันสาระเกี่ยวกับ สี
จะเป็นอย่างไรหากโลกของเราขาดสีสัน ?
สีคือองค์ประกอบหลักที่อยู่คู่กับแทบทุกสิ่งภายในโลก และหากเป็นวัตถุสิ่งของหรือกระบวนการผลิตสินค้าต่าง ๆ การทำสีถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยในสินค้าแทบทุกชนิด ในขณะที่นวัตกรรมของสินค้าประเภทอื่น มักจะมีการชูจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพหรืออรรถประโยชน์ในการใช้งาน แต่สำหรับเรื่องของสีนั้น จะส่งผลต่อเสน่ห์ที่ดึงดูดน่าใช้งาน ส่งผลต่อความชอบของแต่ละบุคคล และในสินค้าบางชนิด ลักษณะของสีสันนั้นยังสามารถที่จะให้ผู้ใช้งานสินค้าให้บ่งบอกถึงรสนิยมความชอบส่วนตัวของแต่ละคนได้อีกด้วย
โดยสีต่าง ๆ ที่เราสามารถเห็นได้ออกเป็นหลายสีนั้นแท้จริงแล้ว เกิดขึ้นมาจากการผสมกันของแม่สีเพียง 3 สีเท่านั้น นำมาผสมกันจนแยกออกเป็นสีชนิดต่าง ๆได้ อาทิเช่นหากนำสีน้ำเงินมารวมกับสีแดงก็จะได้สีม่วงแดง หากนำสีน้ำเงินมารวมกันกับสีเขียวก็จะได้สีน้ำเงินเขียว และหากนำเอาสีแดงมารวมกับสีเขียวก็จะทำให้ได้สีเหลือง หรือหากนำเอาสีน้ำเงินมารวมเข้ากันกับสีเขียว และหากยังมีการนำมารวมกับสีแดงด้วยก็จะทำให้ได้สีขาวอย่างนี้เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการผสมสีในแบบที่เรียกว่า “การผสมแบบลบ” การผสมสีในวิธีนี้จะได้รับความนิยมกันมากสำหรับการผลิตสีทาบ้าน ซึ่งในปัจจุบันร้านขายสีทาบ้านนั้นจะมีการติดตั้งเครื่องผสมสีเอาไว้ให้ลูกค้าได้เลือกสีที่ต้องการ จากนั้นจะมีการนำเอาแม่สีไปผสมกันในเครื่องผสมสี ออกมาเป็นสีต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ อาทิเช่นหากนำเอาสีม่วงแดงมาผสมรวมเข้ากันกับสีเหลืองจะทำให้ออกมาได้สีแดง หากนำเอาสีน้ำเงินเขียวมาผสมรวมเข้ากันกับสีม่วงแดง และยังรวมเข้ากันกับสีเหลืองก็จะทำให้ออกมาได้สีดำ และหากนำเอาสีน้ำเงินเขียวรวมกับสีเหลืองก็จะทำให้ได้สีเขียว หรือหากนำเอาสีน้ำเงินเขียวมาผสมรวมเข้ากันกับสีม่วงแดงก็จะทำให้ออกมาได้เป็นสีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณภาพของสินค้าจะดีแค่ไหน หรือไม่ว่าความเข้มของสีและความสดใสของสีจะออกมาในโทนใด แต่ทั้งนี้ยังจะต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของดวงตาของมนุษย์อีกด้วย ซึ่งบางคนมีอาการตาบอดสี หรือบางคนมีอาการของการมองเห็นสีที่ผิดเพี้ยน หรือแตกต่างไปจากผู้อื่น แต่โดยทั่วไปแล้วงานผลิตสี จะอ้างอิงยึดโยงอยู่กับลักษณะการมองเห็นโดยส่วนใหญ่ ของผู้คนทั่วไป
โดยสีแต่ละชนิดจะมีราคาถูกราคาแพงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้นำมาผลิตสี โดยเฉพาะสีที่นำมาใช้กันในงานศิลปะระดับมืออาชีพ ก็จำเป็นที่จะต้องจัดหาซื้อสีที่มีคุณภาพที่เชื่อถือมีสีสันที่สวยสดงดงามสามารถผลิตงานศิลปะได้อย่างมั่นใจ หรือหากมีการนำไปใช้ในระดับโรงงานอุตสาหกรรมเช่นการใช้สีพ่นรถยนต์ ก็จะต้องผ่านกระบวนการที่ละเอียดซับซ้อนสูง และมีเรื่องของการใช้อุณหภูมิอบสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือถ้าเป็นสีทาบ้านหรือทาอาคารก็จะมีการแข่งขันกันในด้านการค้นคว้าวิจัยการเพิ่มสารชนิดต่าง ๆ ลงไปในสินค้า
พื้นฐานความรู้เรื่องสีที่น่ารู้
สี (Colour) คือการรับรู้ความถี่ของแสงผ่านประสาทสัมผัสการมองเห็น อันละเอียดอ่อนของดวงตาโดยในแต่ละคนนั้นจะมีความสามารถในการมองเห็นแสงในช่วงความถี่ที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางชีวภาพเป็นหลัก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามสีถือเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสีสันแก่การดํารงชีวิตของมนุษย์ทั้งอารมณ์และความรู้สึกต่อภาพที่เรามองเห็น
ประเภทของแม่สี
สีมากมายหลากหลายแบบที่เราพบเห็นกันในปัจจุบันนั้น ความจริงแล้วมีต้นกำเนิดจากแม่สี ทั้งนั้น โดยการผสมสีของแม่สีต่าง ๆ จนเกิดเป็นสีใหม่ ซึ่งถ้าหากนำสีใหม่ทั้ง 2 แบบมาผสมกันอีกก็จะได้ชนิดของโทนเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ โดยแม่สีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.แม่สีวัตถุธาตุ
เป็นแม่สีที่เกิดจากการใช้วัสดุทางธรรมชาติ หรือสีที่เกิดขึ้นจากกระบวนการการสังเคราะห์ทางเคมี ซึ่งประกอบไปด้วย สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน โดยแม่สีเหล่านี้นิยมนำมาใช้ในวงการอุตสาหกรรม หรือวงการศิลปะ เพื่อใช้ในการลงสีให้กับสิ่งต่าง ๆ
2.แม่สีของแสง
เป็นแม่สีที่เกิดจากการหักเหของแสง ผ่านเข้าไปยังแก้วปริซึม ซึ่งประกอบไปด้วย สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียว โดยจะปรากฏออกมาในรูปแบบของแสงรังสี อันเป็นแสงชนิดเดียวที่มีสีอยู่ในตัว โดยสีจากแสงชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในการฉายภาพทางโทรทัศน์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป หรือการแสดงภาพผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ใช้การผสมแสงโดยคอมพิวเตอร์
การผสมสี
การผสมสีสามารถแบ่งออกได้ตามทฤษฎีทั้งหมด 2 แบบ คือ
การผสมสีแบบบวก
เป็นการผสมกันระหว่างสีและแสง โดยใช้แม่สีหลัก ที่มาในรูปแบบของแสงในการผสมกัน ซึ่งประกอบไปด้วย แสงสีแดง แสงสีเขียว และแสงสีน้ำเงิน และเมื่อนำแม่สีแสงเหล่านี้ผสมกันจนออกมาเป็นสีใหม่เราจึงจะเรียกสีเหล่านั้นว่าแม่สีรอง ประกอบไปด้วย สีเหลือง สีน้ำเงินเขียว สีม่วงแดง การผสมสีแบบบวกนั้นเราจะสามารถพบเห็นได้บนอุปกรณ์ฉายภาพ ทั้ง จอโทรทัศน์ หรือจอคอมพิวเตอร์
ตัวอย่างการผสมสี
สีม่วงแดง รวมกับ สีเหลือง ได้ สีแดง
สีน้ำเงินเขียว รวมกับ สีม่วงแดง ได้ สีน้ำเงิน
การผสมสีแบบลบ
เป็นการผสมสีที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลำแสงโดยตรง เหมือนเหมือนการผสมสีแบบบวก แต่จะแสดงผลออกมาในเชิงการดูดกลืนหรือสะท้อนแสงแทนหากมีแสงสีขาวสะท้อนมาถึงตัววัตถุ โดยจะมีการดูดแสงที่มีความยาวคลื่นบางระดับเอาไว้ ซึ่งสะท้อนแสงที่เหลือจากการดึงดูดออกมาปรากฎให้เราเห็น ซึ่งสามารถพบเห็นการผสมสีแบบลบนี้ได้ใน สีทาบ้าน และ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น
ตัวอย่างการผสมสีแบบลบ
สีม่วงแดง ผสม สีเหลือง ได้ สีแดง
สีน้ำเงินเขียว ผสม สีม่วงแดง ได้ สีน้ำเงิน
โดยหลักการเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ต่อความเข้าใจในขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเลือกสีได้อย่างเหมาะสมต่อลักษณะการนำไปใช้งาน โดยเฉพาะการใช้งานในหลายจุดประสงค์ที่ต้องมีการผสมสีก็จะสามารถได้สีออกมาใกล้เคียงกับที่ต้องการได้มากที่สุดนั่นเอง