อุปกรณ์เสียงและวีดีโออิเล็กทรอนิกส์
อีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับผู้ที่มีรสนิยมชมชอบ ภาพยนตร์ โดยเฉพาะการได้ชมภาพยนตร์ที่บ้าน แต่…ความฟิน และบรรยากาศคงจะสู้โรงภาพยนตร์ไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ เสียง โซฟานุ่มๆ แต่ในปัจจุบันโรงภาพยนตร์ก็อาจจะทำให้การรับชมภาพยนตร์ของคุณเป็นฝันร้ายได้ภายในพริบตา จากกลุ่มคนที่ไม่มีมารยาทในการรับชมภาพยนตร์ รวมถึงเด็กๆ ที่มักจะสร้างหายนะให้กับเราๆ ที่ต้องจ่ายเงินแลกตั๋วราคาแพง แต่ก็ต้องมานั่งฟังเสียงเด็ก เสียงจาม เสียงคนคุยกัน เล่นโทรศัพท์หรือแม้กระทั่งในโรงภาพยนตร์ของคุณอาจจะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค แต่ในปัจจุบันกลับมีอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยทีเดียว แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมา มันช่างคุ้มค่า นั้นก็คือห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัวประจำบ้านที่เป็นของเราเอง วันนี้ทางร้านของเราก็มีอุปกรณ์ขยายเสียง และวีดีโออิเล็กทรอนิกส์
อุปกรณ์ขยายเสียง
ถ้าเราจะมีห้องชมภาพยนตร์ที่เป็นของเราจริงๆสิ่งหนึ่งที่เราต้องมีนั้นก็คือเครื่องขยายเสียงที่มีเสียงกระหึ่มๆ แบบในโรงภาพยนตร์ โดยทางร้านเราจะอธิบาย และวิธีการเลือกซื้อเพื่อความคุ้มค่าในทุกบาททุกสตางค์ที่คุณได้จ่ายไป โดยลำโพงนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการถ่ายทอดเสียงออกมาให้เราได้ยิน โดยลำโพงมี 2 แบบใหญ่คือ 1 .ขยายเสียงในตัว และ 2.แบบไม่มีวงจรขยายเสียง
สำหรับลำโพงที่ไม่มีวงจรขยายเสียงในตัวนั้นขนาดของกรวยลำโพงที่ใช้จะมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 นิ้วเท่านั้น โดยลำโพงชนิดนี้จะพึ่งพาการ์ดเสียง ในการขยายเสียง ฉะนั้นถ้าจะใช้ลำโพงประเภทนี้ต้องมีวงจรขยายเสียงด้วยไม่งั้นความดังของเสียงจะออกมาได้อย่างไม่เต็มที่ ฉะนั้นลำโพงชนิดนี้ต้องอาศัยการ์ดเสียงมาเพิ่มเพื่อประสิทธิภาพในตัวของมันเอง
ลำโพงที่มีวงจรขยายเสียงภายในตัว ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆก็คือ ลำโพงชนิดนี้จะมีปุ่มต่างให้ สามารถปรับเสียงเองได้เลยเช่นปุ่ม Volume ปุ่มBase สำหรับเสียงความดัง และทุ่ม และปุ่มTreble สำหรับความดังเสียงแหลม
และอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆเลยก็คือ ทีวีส่วนตัวโดยปัจจุบันหลายๆบ้านมักจะนิยมเครื่องฉายมาใช้ดูหนัง และทางร้านของเราก็จะแนะนำเครื่องโปรเจกเตอร์จิ๊กชอว์ชิ้นสำคัญสำหรับความมันส์ในการดูภาพยนตร์ภายในบ้าน
วิธีเลือกโปรเจ็กเตอร์แบบเบื้องต้น
1.อย่าซื้อของถูกเกินไป – โดยปัจจุบันราคาของมันมีตั้งแต่ 2-3 พัน จากราคามันก็น่าซื้อนะแต่หากต้องการคุณภาพจริงๆ แนะนำเครื่องที่เป็นแบรนด์ไปเลยดีกว่า
2.เลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง – ถ้าห้องไม่กว้างมาก ความสว่างควรอยู่ที่ 3000-3500 lumens ก็พอ
3.พยายามเลือกแบรนด์ที่อยู่ใกล้บ้าน – ในกรณีที่เครื่องเราชำรุด ต้องส่งศูนย์ซ่อมใกล้บ้าน เวลาส่งเคลมนั้นก็จะสะดวกเอามากๆ
4.ระยะฉายไม่เพียงพอ – ก่อนที่เราจะซื้อไม่ว่าจะเป็นแบบ short throw หรือ Ultrashort throw ควรเช็คขนาดจอ กับระยะฉายก่อนทุกครั้ง
5.การเลือกสีภาพ – โดยถ้าหากเราชอบตัวหนังสือ คมชัด สีกระจายตัวดีแนะนำ DLP แต่ถ้าชอบสีสด สู้แสงไฟได้ แนะนำ LCD ก็จะดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า แต่ถ้าต้องการภาพแบบแจ่มๆแนะนำ LCos
และนี้ก็คือความรู้การเลือกซื้ออุปกรณ์เสียง และวีดีโอเบื้องต้น แต่สำหรับร้านของเราจะมีคำบรรยายสรรพคุณของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ไว้อย่างละเอียดอย่างแน่นอน เสมือนมีพนักงานเดินตามติดและพร้อมให้คำแนะนำตลอดเวลา