เมื่อพูดถึงการสั่งซื้อสินค้าจากจีนก็แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วหลายคนมักจะนึกถึงแพลตฟอร์มเจ้าดังต่างๆ ที่เป็นศูนย์รวมร้านค้า และสินค้าหลากหลายหมวดหมู่อย่าง Taobao Alibaba Aliexpress ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่มีผู้ใช้บริการทั้งในจีนเอง และต่างชาติจำนวนมาก มีสินค้าให้เลือกหลายเกรด อย่างเช่น เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า จากหลากหลายแบรนด์ผู้ผลิต แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงมักจะได้รับการแนะนำบอกต่อกันว่าเป็นแหล่งจัดหาสินค้าที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการนำสินค้ามาจำหน่ายปลีกในบ้านเรา หรือแม้แต่นักช้อปที่ต้องการมองหาสินค้าราคาย่อมเยามาสต๊อกไว้ใช้เอง อย่าง เครื่องสำอาง อย่างไรก็ตามแต่ละแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นต่างก็มีจุดเด่น ข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนักช้อปบางคนก็อาจพอทราบบ้างอยู่แล้ว และอีกหลายคนก็อาจจะไม่ทราบมาก่อน ในบทความนี้จึงจะมาอัปเดทความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสียของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งจีนเจ้าดังอย่าง taobao, alibaba และ aliexpress ให้ได้ทราบกันว่าในปี 2023 นี้มีจุดไหนที่แตกต่างกันบ้าง และนักช้อปอย่างเราๆ ควรเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มใดจึงจะคุ้มค่ามากที่สุด
– Taobao และ Aliexpress เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นจำหน่ายปลีก เริ่มกันที่สองแพลตฟอร์มที่มีทั้งจุดเด่นที่เหมือนกัน และมีความแตกต่างอยู่ในตัวด้วย ซึ่งก็คือ taobao และ aliexpress โดยทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นต่างก็เน้นการจำหน่ายแบบปลีกด้วยกันทั้งคู่ ภายในแพลตฟอร์มจะมีร้านค้ารายย่อยมากมายมาลงสินค้าให้ลูกค้าได้เข้าไปเลือกช้อป จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างเหมาะสำหรับนักช้อปที่ต้องการเลือกหาสินค้าไว้ใช้งานเอง หรือร้านค้ารายย่อยต่างๆ ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าไปสต๊อกไว้ในปริมาณที่ไม่เยอะมากนัก เช่นคราวละ 10-20 ชิ้น เป็นต้น สรุปง่ายๆ ได้ว่าทั้ง taobao และ aliexpress อาจจะไม่เหมาะสำหรับการมองหาสินค้าราคาส่งในปริมาณมากๆ เช่นหลักร้อยหลักพันชิ้นต่อรายการสักเท่าไหร่นั่นเอง ส่วนความแตกต่างของทั้งสองแพลตฟอร์มก็คือ aliexpress นั้นเป็นแพลตฟอร์มช้อปปิ้งแบบ Global รองรับการจำหน่ายปลีกทั่วโลก มีระบบขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของตัวเอง กล่าวคือเราสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มได้โดยไม่ต้องใช้บริการชิปปิ้ง หรือใส่ที่อยู่การจัดส่งเป็นโกดังชิปปิ้งในจีนนั่นเอง ขณะที่ taobao นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่เริ่มต้นมาจากการเน้นจำหน่ายปลีกภายในประเทศ ดังนั้นระบบต่างๆ และการใช้งานหน้าแพลตฟอร์มจึงอาจจะไม่เอื้อสำหรับชาวต่างชาติสักเท่าไหร่ พูดง่ายๆก็คือการจะช้อปปิ้งบน taobao ได้อย่างลื่นไหล หรือติดขัดน้อยที่สุดนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาชิปปิ้งนั่นเอง แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ล่าสุดทางแพลตฟอร์มก็ได้มีความพยายามในการพัฒนาระบบให้รองรับออเดอร์จากต่างประเทศได้มากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งออเดอร์จากไทยเรา ซึ่งได้มีการเพิ่มทางเลือกการขนส่งระหว่างประเทศเข้ามา ให้ตัวลูกค้าสามารถเลือกได้เองผ่านหน้าแพลตฟอร์ม แต่กระนั้นก็ยังคงมีข้อเปรียบเทียบในเรื่องของเรทราคา และความสะดวกในการติดตามสินค้าที่อาจจะยังไม่คุ้มค่าและสะดวกเท่ากับการเลือกใช้บริการชิปปิ้ง
– Alibaba เน้นจำหน่ายส่ง เป็นแหล่งมองหาผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ อาลีบาบาถือได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มแรกที่สร้างการเติบโตให้แก่ Alibaba Group และนำมาสู่การพัฒนาแพลตฟอร์มช้อปปิ้งอื่นๆ ในเครืออาลีบาบาตามมาในภายหลัง ซึ่งจุดเด่นของ alibaba ที่แตกต่างจาก aliexpress และ taobao อย่างชัดเจนก็คือ alibaba นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการจำหน่ายส่ง เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บรรดาธุรกิจ ห้างร้านต่างๆ เข้าไปมองหาผู้ผลิต และซัพพลายเออร์สินค้าหมวดต่างๆ สรุปได้ว่า alibaba เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าคราวละมากๆ ซึ่งการมองหาสินค้าจากร้านรายย่อยในแพลตฟอร์มอย่าง taobao, aliexpress ย่อมมีปริมาณ หรือกำลังการผลิตที่ไม่สามารถตอบโจทย์ได้เพียงพอ จึงควรเลือกมองหาผู้ผลิต หรือซัพพลายเออร์ในอาลีบาบา และดีลตรงกับทางโรงงานผู้ผลิตแทน ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้สินค้าในปริมาณตามต้องการแล้ว ยังสามารถกำหนดสเปคสินค้าได้เอง อีกทั้งต้นทุนเฉลี่ยก็จะต่ำกว่าการเลือกหาสินค้าสำเร็จรูปในแพลตฟอร์มรายย่อยอย่าง taobao อีกด้วย+